1. ปูนซีเมนต์ตราอินทรีทองผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย มีคุณภาพสูงตรงตามมาตรฐาน ASTM C 91 Type N (masonry cement) โดยมีส่วนผสมของวัตถุดิบที่ ผ่านการเลือกสรรอย่างดี ร่วมกับสารเคมีพิเศษ XD65 ที่ช่วยปรับปรุงให้เนื้อปูน เหนียว ลื่น และเพิ่มแรงยึดเกาะให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีความละเอียดกว่าปูนซีเมนต์ผสมทั่วไปถึง 2 เท่า ดังนั้นการเลือกใช้ปูนซีเมนต์ตราอินทรีทอง จะทำให้ได้ผิวงานฉาบที่นวลเนียน เรียบสม่ำเสมอ ลดการแตกร้าว และหลุดร่อน
2. ปริมาณน้ำที่ใช้ผสมขึ้นอยู่กับความชื้นของวัสดุผสม (ทราย), น้ำหนักบรรจุปูนซีเมนต์ตราอินทรีทอง 40 กิโลกรัมต่อถุง

สำหรับงานฉาบ
ผสม ปูนซีเมนต์อินทรีทอง 1 ส่วน ต่อทรายละเอียด 3 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน ผสมให้เข้ากันก็สามารถใช้งานได้ทันที ( สูตรผสม ปูน : ทราย : น้ำ = 1 : 3 : 1) ปูนอินทรีทอง 1 ถุง ผสมตามสัดส่วนที่แนะนำ ใช้ฉาบที่ความหนา 1 ซม. จะสามารถฉาบได้พื้นที่ประมาณ 8 ตารางเมตร

สำหรับงานก่อ
อัตรา ส่วนของ ซีเมนต์: ทรายละเอียด:น้ำ ที่แนะนำคือ 1 : 2.5 : 1 โดยเมื่อผสมให้เข้ากันก็พร้อมที่จะใช้งานได้ทันที ปูนซีเมนต์ตราอินทรีทอง 1 ถุง เมื่อผสมตามสัดส่วนที่แนะนำดังกล่าว เมื่อใช้ในก่ออิฐที่ความหนา 1 - 1.5 ซม. จะสามารถก่อได้พื้นที่ประมาณ 5 ตารางเมตรสำหรับอิฐแดงก่อครึ่งแผ่น

1. ควรทำความสะอาดผนังก่อนฉาบเพื่อให้ปูนยึดเกาะผนังได้ดีขึ้น
2. ควรพรมน้ำบนผนังให้ชุ่มก่อนการฉาบผนัง เพื่อป้องกันและลดการแตกร้าว เนื่องจากผนังดูดน้ำจากเนื้อปูนเร็วเกินไป
3. ระวังอย่าให้ผนังฉาบโดนแดดโดยตรง เพื่อลดการแตกร้าวเนื่องจากอุณหภูมิและการสูญเสียน้ำที่เร็วเกินไป
4. งานปูนฉาบควรมีการบ่มน้ำต่อเนื่องอย่างน้อย 1-3 วัน โดยการฉีดน้ำบนผนังปูนฉาบให้ชุ่ม เพื่อลดปัญหาการแตกร้าว และเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนากำลังอัดของปูนซีเมนต์
5. ควรเก็บกองปูนไว้ในที่ร่มแห้ง ปราศจากความชื้น
6. ควรมีอายุการเก็บไม่เกิน 2 เดือน และปูนที่เปิดถุงแล้วควรใช้ให้หมดภายใน 1 - 2 วัน